โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

07 เมษายน 2565


โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis)หรือช็อกโกแล็ตซีส(Chocolate cyst)

คือภาวะที่เยื่อบุมดลูกไปเจริญอยู่ที่ตำแหน่งอื่นนอกเหนือจากภายในโพรงมดลูก พบได้บ่อยในช่วงวัยเจริญพันธุเป็นโรคที่ทำให้เกิดการอักเสบและเกิดพังผืดในอุ้งเชิงกราน เป็นสาเหตุที่สำคัญของอาการปวดระดู ปวดท้องน้อยเรื้อรัง และภาวะมีบุตรยาก โรคเยื่อบุเจริญผิดที่นี้สามารถพัฒนากลายเป็นมะเร็งได้ถึง2.5%

สาเหตุ

การเกิดโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่าเกิดจากการไหลย้อนกลับขงอระดูร่วมกับปัจจัยอื่นๆ เช่น พันุกรรม ระบบภูมิคุ้มกันหรือสภาพแวดล้อมในช่องท้องผิดปกติ จึงพบมากในคนที่มีประจำเดือนเร็ว ประจำเดือนมาถี่หรือมามาก หรือคนที่มีมดลุกผิดปกติแต่กำเนิด

อาการที่พบบ่อยที่สุด

  • ปวดท้องน้อยเรื้อรัง
  • ปวดท้องประจำเดือน
  • ปวดตอนมีเพศสัมพันธ์
  • คลำได้ก้อนในท้องน้อย
  • มีบุตรยาก

แต่ในบางคนไม่มีอาการใดๆ เลย แต่ตรวจพบจากการตรวจภายในหรือทำอัลตราซาวด์ โดยคนที่มีปัญหาปวดท้องน้อยเรื้อรังจะพบโรคนี้ได้สูงถึง 30-70 ดังนั้นถ้ามีอาการผิดปกติดังกล่าวแนะนำให้พบสูตินรีแพทย์เพื่อทารตรวจเพิ่มเติม

การรักษาโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

ประกอบด้วย การรักษาด้วยยา หรือการผ่าตัด ซึ่งพิจารณาเป็นรายๆ ไปขึ้นกับอาการที่มี ความต้องการมีบุตรและขนาดของซีสเป็นหลัก

  • ยาทุกชนิดที่ใช้ในการรักษาโรคจะทำให้ไม่เกิดการตั้งครรภ์ในระหว่างการรักษาและหลังการรักษาด้วยยาแล้วก้ไม่ช่วยให้การตั้งครรภ์ดีขึ้น
  • การผ่าตัด โดยทั่วไปถ้าขนาดของก้อนซีสใหญ่เกิน 3 เซนติเมตร หรือต้องการมีบุตรการผ่าตัดถือเป็นการรักษาอันดับแรก
    • การผ่าตัดเปิดหน้าท้องเป็นการผ่าตัดแบบดั้งเดิม คือ แผลใหญ่ เจ็บแผลมากและอาจเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด
    • การผ่าตัดผ่านกล้อง ในปัจจจุบันมีการพัฒนาและมีประโยชน์มากกว่าคือ เห็นรอยโรคได้ชัดเจนกว่า ทำให้สามารถจี้ทำลายรอยโรคและตัดเอารอยโรคออกได้ดีกว่า บอบช้ำต่อเนื้อเยื้อข้างเคียงน้อยกว่าการผ่าตัดแบบเดิม เกิดพังผืดหลังการผ่าตัดน้อยกว่า วึ่งเป้นผลดีต่อการมีบุตรในอนาคต แผลเล็ก เจ็บน้อย นอนโรงพยาบาลสั่นกว่า การฟื้นตัวหลังผ่าตัดเร็วกว่า

โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่  หลังการรักษาไม่ว่าด้วยยาหรือการผ่าตัดมีโอกาสเป็นซ้ำได้ จึงแนะนำให้ตรวจติดตามทุกปี

 

พญ.กรพินธุ์  รัตนสัจธรรม

 


พญ.กรพินธุ์ รัตนสัจธรรม

ความชำนาญ :

ข้อมูลเพิ่มเติม

แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด

Sleep Test ตรวจคุณภาพการนอน ค้นหาภาวะหยุดหายใจขณะหลับ นอนโรงพยาบาล 1 คืน

ข้อมูลเพิ่มเติม

วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก 4 สายพันธุ์ (3 เข็ม) HPV vaccine-4 valent

ข้อมูลเพิ่มเติม

โปรแกรมคลอดบุตร สมิติเวชชลบุรี

ข้อมูลเพิ่มเติม

โปรแกรมตรวจสุขภาพ Happy Life Program

ข้อมูลเพิ่มเติม

ลดน้ำหนักด้วยปากกา

ข้อมูลเพิ่มเติม

ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก

ข้อมูลเพิ่มเติม

IV DRIP ดริปวิตามิน สูตรกระจ่างใส

ข้อมูลเพิ่มเติม

แพ็กเกจการคลอดแบบพรีเมียม
รพ.สมิติเวชชลบุรี

ข้อมูลเพิ่มเติม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด

เมื่อลูกน้อย...เท้าบิดหมุนเข้าใน

เด็กที่เดินแล้วมีปลายเท้าชี้เข้าหากัน เกิดจากการบิดหมุนของขาตั้งแต่สะโพกลงมา มีลักษณะการเดินผิดปกติและปัญหาเรื่องความสวยงามของขาที่ผิดรูป การตัดรองเท้าอาจพิจารณาในรายที่เป็นมากจนเท้าสะดุดกันเองเวลาวิ่ง เด็กที่มีเท้าบิดหมุนเข้าใน เด็กที่เดินแล้วมีปลายเท้าชี้เข้าหากันเกิดจากการบิดหมุนของขาตั้งแต่สะโพกลงมา แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ต้นขา หน้าแข้ง และเท้า แต่ละส่วนมีแนวทางการตรวจติดตาม และรักษา แตกต่างกันเล็กน้อย การบิดหมุนของส่วนต้นขา พบมากที่สุด ส่วนใหญ่จะหายได้เอง ก่อนอายุ 10 ปี การดัดและการตัดรองเท้า ไม่ช่วยในการหาย พยายามเลี่ยงการนั่งในท่า W แต่ไม่จำเป็นต้องให้นั่งขัดสมาธิ ในเด็กที่ทำไม่ได้ อาจให้นั่งเหยียดขาแทนเวลานั่งพื้น การตัดรองเท้าอาจพิจารณาในรายที่เป็นมากจนเท้าสะดุดกันเองเวลาวิ่ง การผ่าตัดอาจไม่จำเป็นถ้าไม่มีปัญหาในการดำรงชีวิต และหากจะทำควรทำเมื่อเด็กโตมากแล้ว การบิดหมุนของหน้าแข้ง พบได้น้อยเมื่อเทียบกับบริเวณอื่น ส่วนใหญ่จะหายเองก่อนอายุ 4 ปี การรักษาเบื้องต้นเพียงติดตามอาการเท่านั้น การผ่าตัดอาจไม่จำเป็นถ้าไม่มีปัญหาในการดำรงชีวิต และหากจะทำควรทำเมื่อเด็กโตมากแล้ว การบิดหมุนที่เท้า พบได้ค่อนข้างบ่อย สังเกตได้จากเท้าจะโค้งคล้ายกล้วย ถ้าสามารถดัดได้ง่าย โอกาสหายเองสูง ถ้าดัดได้ยากอาจพิจารณาใส่เฝือกหรือตัดรองเท้าช่วย ส่วนใหญ่หายเองก่อน 4 ขวบ ในกรณีที่ยังเป็นจนโต อาจพิจารณาผ่าตัดในรายที่มีปัญหาการใส่รองเท้า และกังวลเรื่องความสวยงาม